 |
| X-Men (2000) |
ชื่อเรื่อง: รีวิวภาพยนตร์ X-Men (2000) — จุดเริ่มต้นของจักรวาลมิวแทนต์และการปฏิวัติวงการซูเปอร์ฮีโร่
บทนำ
ปี 2000 คือจุดเปลี่ยนสำคัญของโลกภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ เพราะนี่คือปีที่ X-Men (2000) ออกฉาย — หนังที่เปิดประตูให้กับยุคใหม่ของภาพยนตร์ฮีโร่ในศตวรรษที่ 21
ก่อนหน้าที่จะมี Spider-Man (2002) หรือ Iron Man (2008) โลกยังไม่เคยเห็นภาพยนตร์ฮีโร่ที่มีเนื้อหาจริงจัง ลึกซึ้ง และสะท้อนปัญหาสังคมเท่ากับ X-Men
ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย Bryan Singer และอ้างอิงจากคอมิกของ Marvel Comics ที่สร้างสรรค์โดย Stan Lee และ Jack Kirby ในยุค 1960s ซึ่งนำเสนอเรื่องราวของ “มิวแทนต์” มนุษย์ที่มียีนพิเศษและพลังเหนือธรรมชาติ ที่ต้องต่อสู้เพื่อการยอมรับในโลกที่เกลียดชังพวกเขา
เรื่องย่อของ X-Men (2000)
ในโลกที่มนุษย์เริ่มกลัวและเกลียดชัง “มิวแทนต์” — กลุ่มคนที่เกิดมาพร้อมพลังพิเศษ เช่น การควบคุมโลหะ การอ่านใจ หรือการรักษาตัวเองได้อย่างรวดเร็ว
รัฐบาลเริ่มพิจารณากฎหมาย “Mutant Registration Act” เพื่อบังคับให้มิวแทนต์เปิดเผยตัวตนและพลังของพวกเขา
ในขณะที่ศาสตราจารย์ Charles Xavier (Professor X) ผู้นำของโรงเรียน Xavier’s School for Gifted Youngsters เชื่อว่ามนุษย์และมิวแทนต์สามารถอยู่ร่วมกันได้
อีกฝ่ายหนึ่งคือ Magneto (Erik Lehnsherr) มิวแทนต์ผู้มีพลังควบคุมโลหะ เชื่อว่ามนุษย์จะไม่มีวันยอมรับพวกเขา
สงครามแนวคิดนี้ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง เมื่อ Magneto วางแผนใช้เครื่องจักรเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นมิวแทนต์ — โดยไม่สนว่าพวกเขาจะอยู่รอดหรือไม่
ในขณะเดียวกัน มิวแทนต์หนุ่ม “Logan” หรือที่รู้จักในชื่อ Wolverine (Hugh Jackman) และสาวพลังดูดพลังชีวิต Rogue (Anna Paquin) ได้เข้ามามีส่วนร่วมในสงครามนี้อย่างไม่ตั้งใจ และกลายเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องราว
จุดเด่นของภาพยนตร์
-
การเปิดจักรวาลมิวแทนต์อย่างทรงพลัง
X-Men (2000) เป็นจุดเริ่มต้นของแฟรนไชส์ภาพยนตร์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และปูพื้นฐานให้กับภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ยุคใหม่ -
เนื้อหาสะท้อนสังคมจริง
หนังไม่เพียงแต่เล่าเรื่องพลังพิเศษ แต่ยังพูดถึง “ความกลัว ความแตกต่าง และการเลือกปฏิบัติ” ซึ่งเปรียบได้กับปัญหาการเหยียดเชื้อชาติและสิทธิมนุษยชนในโลกจริง -
การแสดงที่ตราตรึง
-
Hugh Jackman ในบท Wolverine กลายเป็นไอคอนของแฟรนไชส์นี้ตลอด 17 ปี
-
Patrick Stewart (Professor X) และ Ian McKellen (Magneto) ถ่ายทอดพลังทางอารมณ์และอุดมการณ์ที่แตกต่างกันได้อย่างยอดเยี่ยม
-
-
ฉากแอ็กชันเข้มข้นแต่มีสาระ
การต่อสู้ของมิวแทนต์แต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงจิตใจและแรงผลักดันของพวกเขา
ตัวละครสำคัญ
-
Professor X (Charles Xavier) — ผู้นำมิวแทนต์สายสันติ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนสอนเด็กพิเศษ
-
Magneto (Erik Lehnsherr) — มิวแทนต์ผู้ผ่านความโหดร้ายในสงครามโลก และเชื่อว่ามนุษย์คือภัยคุกคาม
-
Wolverine (Logan) — มนุษย์กลายพันธุ์ผู้มีกรงเล็บอะดาแมนเทียม และพลังฟื้นตัวที่รวดเร็ว
-
Rogue — เด็กสาวที่ดูดพลังและชีวิตของผู้อื่นด้วยการสัมผัส
-
Storm, Cyclops, Jean Grey — สมาชิกทีม X-Men ที่ร่วมต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม
ประเด็นสำคัญของเรื่อง
-
ความกลัวต่อสิ่งที่แตกต่าง: มนุษย์กลัวสิ่งที่ไม่เข้าใจ และมิวแทนต์คือภาพสะท้อนของ “ผู้ถูกกีดกัน”
-
อุดมการณ์ที่ขัดแย้ง: Xavier เชื่อในสันติภาพ ส่วน Magneto เชื่อในพลังและการปกครอง
-
การยอมรับตัวเอง: เหล่ามิวแทนต์ต้องเรียนรู้ที่จะภูมิใจในสิ่งที่ตนเป็น แม้โลกจะไม่ยอมรับ
คุณค่าของภาพยนตร์ในวงการ
X-Men (2000) คือภาพยนตร์ที่จุดไฟให้กับวงการหนังฮีโร่ยุคใหม่ ก่อนที่จักรวาล Marvel Cinematic Universe จะถือกำเนิดขึ้น หนังแสดงให้เห็นว่าภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่สามารถ “จริงจัง มีสาระ และสะท้อนสังคม” ได้
ความสำเร็จของหนังนำไปสู่ภาคต่อมากมาย เช่น
-
X2: X-Men United (2003)
-
X-Men: The Last Stand (2006)
-
X-Men: First Class (2011)
และอีกหลายภาคที่ขยายเรื่องราวของมิวแทนต์รุ่นต่อรุ่น
คะแนนและคำวิจารณ์
เมื่อออกฉาย X-Men (2000) ได้รับคำชมอย่างล้นหลามจากนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วโลก
-
เว็บไซต์ Rotten Tomatoes ให้คะแนนรีวิว “สด” มากกว่า 80%
-
รายได้ทั่วโลกกว่า 296 ล้านดอลลาร์ จากทุนสร้างเพียง 75 ล้านดอลลาร์
บทสรุป
X-Men (2000) ไม่ได้เป็นเพียงแค่หนังซูเปอร์ฮีโร่ แต่เป็นภาพยนตร์ที่มีหัวใจ มีสาระ และมีอิทธิพลต่อวงการภาพยนตร์ไปอีกหลายทศวรรษ
มันคือการเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ทำให้ผู้ชมทั่วโลกรู้จักคำว่า “มิวแทนต์” และเปิดทางให้ซูเปอร์ฮีโร่ทุกคนที่ตามมา
หากคุณคือคนที่รักหนังซูเปอร์ฮีโร่ X-Men (2000) คือหนังที่ต้องดูสักครั้งในชีวิต เพราะมันคือ “จุดกำเนิดของทุกสิ่ง”
