Type Here to Get Search Results !

Shazam! (2019)

Adamz 0

 

Shazam! (2019)
Shazam! (2019)


Shazam! (2019) ซาแซม! ฮีโร่สายฮาจากจักรวาล DC ที่เต็มไปด้วยพลังและหัวใจ



ภาพยนตร์เรื่อง Shazam! (2019) คือหนึ่งในผลงานที่โดดเด่นที่สุดของจักรวาลภาพยนตร์ DC Extended Universe (DCEU) ด้วยโทนเรื่องที่แตกต่างจากหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่นในค่าย DC ที่มักจะมีบรรยากาศเข้มข้นและจริงจัง แต่ Shazam! กลับเลือกนำเสนอความสดใหม่ สนุกสนาน และอบอุ่นหัวใจ ผ่านเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่ได้รับพลังวิเศษจนกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่เต็มตัว

ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย David F. Sandberg ซึ่งเคยฝากฝีมือไว้กับภาพยนตร์สยองขวัญอย่าง Lights Out และ Annabelle: Creation แต่ครั้งนี้เขาได้เปลี่ยนแนวทาง มาสร้างหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ผสมผสานทั้งแอ็กชัน ตลก และดราม่าได้อย่างลงตัว นำแสดงโดย Zachary Levi ในบทของซูเปอร์ฮีโร่ Shazam และ Asher Angel ในบทของ Billy Batson เด็กกำพร้าที่กลายเป็นเจ้าของพลังอันยิ่งใหญ่


เรื่องย่อของ Shazam! (2019)

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นกับ Billy Batson เด็กวัยรุ่นกำพร้าอายุ 14 ปีที่ใช้ชีวิตอยู่ในระบบอุปถัมภ์ เขามักจะหนีออกจากบ้านอยู่เสมอเพื่อค้นหาแม่แท้ๆ ที่เขาเชื่อว่ายังมีชีวิตอยู่ วันหนึ่ง Billy ถูกนำตัวมาอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ใหม่ที่อบอุ่นและมีเด็กๆ อีกหลายคน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Freddy Freeman เด็กชายที่หลงใหลในซูเปอร์ฮีโร่และกลายเป็นเพื่อนสนิทของ Billy

โชคชะตาพลิกผันเมื่อ Billy ถูกวาร์ปไปยังมิติของพ่อมดโบราณชื่อว่า Shazam ผู้ซึ่งกำลังมองหาผู้สืบทอดพลัง เพื่อปกป้องโลกจากความชั่วร้ายของปีศาจทั้งเจ็ดแห่งบาป (Seven Deadly Sins) พ่อมดจึงมอบพลังทั้งหมดให้กับ Billy และเพียงแค่เขาพูดคำว่า “SHAZAM!” เขาก็จะกลายเป็นชายหนุ่มร่างใหญ่ผู้มีพลังเหนือมนุษย์

จากนั้นเรื่องราวก็เต็มไปด้วยความวุ่นวายและความสนุกสนาน เมื่อเด็กวัย 14 ต้องเรียนรู้การเป็นซูเปอร์ฮีโร่ในร่างผู้ใหญ่ เขาและ Freddy เริ่มทดลองพลังต่างๆ เช่น การบิน การยิงสายฟ้า และความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ แต่ไม่นานพวกเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับ Dr. Thaddeus Sivana วายร้ายที่เคยถูกปฏิเสธจากพ่อมด Shazam และได้รวมพลังกับปีศาจทั้งเจ็ดเพื่อแก้แค้น


จุดเด่นของภาพยนตร์ Shazam! (2019)

1. โทนเรื่องที่สดใสและแตกต่างจากหนัง DC เรื่องอื่น

ก่อนหน้านี้หนังจากจักรวาล DC อย่าง Batman v Superman หรือ Justice League มักจะมีโทนมืดหม่นและจริงจัง แต่ Shazam! กลับเลือกแนวทางตรงข้าม หนังเต็มไปด้วยมุกตลก ความอบอุ่น และบรรยากาศแบบหนังครอบครัว ซึ่งช่วยให้ผู้ชมทุกเพศทุกวัยเข้าถึงได้ง่าย

2. ตัวละครหลักที่มีเสน่ห์และเป็นธรรมชาติ

Billy Batson เป็นตัวแทนของวัยรุ่นที่ยังไม่โตเต็มที่ ต้องต่อสู้กับปัญหาชีวิตและความโดดเดี่ยว เมื่อเขาได้รับพลังมหาศาล มันจึงกลายเป็นทั้งของขวัญและภาระ เขาต้องเรียนรู้ว่า "พลังที่แท้จริง" ไม่ได้มาจากความแข็งแกร่งทางร่างกาย แต่คือ “หัวใจของคนที่ยอมเสียสละเพื่อคนอื่น”

3. Zachary Levi กับการแสดงสุดลงตัว

Levi ถ่ายทอดความเป็นเด็กในร่างผู้ใหญ่ได้อย่างมีชีวิตชีวา ทั้งตลก ซื่อ และอบอุ่น เขาสามารถทำให้ผู้ชมเชื่อได้จริงๆ ว่าภายใต้ร่างซูเปอร์ฮีโร่คนนี้ คือเด็กวัย 14 ที่ยังไม่รู้จักความรับผิดชอบ

4. ความสัมพันธ์ของครอบครัวอุปถัมภ์

หนังใช้เส้นเรื่องครอบครัวได้อย่างอบอุ่น Billy ค้นพบว่าครอบครัวที่แท้จริงไม่ได้หมายถึงสายเลือด แต่คือคนที่อยู่เคียงข้างและรักเขาอย่างแท้จริง โดยเฉพาะฉากที่เขาแบ่งพลัง Shazam ให้กับพี่น้องทุกคน กลายเป็น Shazam Family ถือเป็นหนึ่งในฉากที่แฟนๆ จดจำมากที่สุด


วิเคราะห์เนื้อหาและประเด็นสำคัญ

แม้ว่า Shazam! จะเป็นหนังที่เต็มไปด้วยความสนุก แต่เนื้อหากลับแฝงแง่คิดลึกซึ้งหลายประการ เช่น

- ความหมายของครอบครัว

Billy ใช้เวลาทั้งชีวิตตามหาแม่แท้ๆ แต่สุดท้ายเขากลับพบว่าความรักที่แท้จริงคือครอบครัวอุปถัมภ์ที่เขาอยู่ด้วย ความอบอุ่นนี้ทำให้เขากลายเป็นฮีโร่ที่ไม่ใช่เพราะพลัง แต่เพราะหัวใจ

- การเติบโตและความรับผิดชอบ

Shazam! เป็นเรื่องของ “การเติบโต” ในแง่ของจิตใจ Billy เรียนรู้ว่าพลังไม่ได้มีไว้เพื่อเล่นสนุกหรือสร้างชื่อเสียง แต่มีไว้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น

- การต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่ว

Dr. Sivana เป็นตัวแทนของคนที่ถูกปฏิเสธและเลือกเส้นทางแห่งความแค้น ตรงข้ามกับ Billy ที่เรียนรู้จะให้อภัยและใช้พลังในทางที่ถูกต้อง


เทคนิคภาพและดนตรีประกอบ

แม้จะเป็นหนังที่ใช้งบประมาณไม่สูงมากเมื่อเทียบกับเรื่องอื่นใน DCEU แต่ทีมงานสามารถสร้างเอฟเฟกต์ได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะฉากการแปลงร่างและฉากต่อสู้กลางเมืองที่ดูตื่นตา เสียงสายฟ้าและพลังเวทย์ทำได้สมจริง

ดนตรีประกอบจาก Benjamin Wallfisch ยังช่วยเสริมอารมณ์ของหนังได้อย่างดี มีทั้งจังหวะฮีโร่สุดเท่และซีนอบอุ่นที่ซึ้งใจ


ความสำเร็จและเสียงตอบรับ

Shazam! ทำรายได้ทั่วโลกกว่า $366 ล้านเหรียญสหรัฐ จากทุนสร้างประมาณ 80-90 ล้าน ถือเป็นความสำเร็จที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะในช่วงที่ DC ต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของจักรวาลให้มีความหลากหลายมากขึ้น

นักวิจารณ์ส่วนใหญ่ยกย่องหนังเรื่องนี้ว่าเป็น “หนัง DC ที่สนุกและเป็นมิตรกับคนดูที่สุด” และชม Zachary Levi ว่าทำให้ตัวละครมีชีวิตชีวาอย่างยอดเยี่ยม


ผลต่อจักรวาล DCEU

แม้ Shazam! จะไม่ได้เชื่อมโยงกับหนังอื่นอย่างชัดเจน แต่ก็ถือเป็นส่วนสำคัญใน DCEU เพราะเปิดมุมมองใหม่ของฮีโร่ที่ไม่ได้มาจากความมืดหรือโศกนาฏกรรม แต่เกิดจาก “ความไร้เดียงสาและหัวใจบริสุทธิ์ของเด็ก”

หลังจากนี้จักรวาล DC ก็มีแผนขยายต่อ เช่น Shazam! Fury of the Gods (2023) ที่เล่าเรื่องต่อจากภาคแรก และพัฒนาให้ Shazam กลายเป็นฮีโร่ที่มีบทบาทมากขึ้นในจักรวาลใหม่นี้


สรุปความประทับใจ

Shazam! (2019) เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ลงตัวระหว่างความฮา ความอบอุ่น และพลังแห่งมิตรภาพ มันไม่ใช่เพียงหนังแอ็กชันธรรมดา แต่คือเรื่องราวการเติบโตของเด็กคนหนึ่งที่เรียนรู้ว่า การเป็นฮีโร่ไม่ได้หมายถึงการมีพลังเหนือคนอื่น แต่คือการใช้หัวใจในการทำสิ่งที่ถูกต้อง

หนังเรื่องนี้พิสูจน์ว่า DC ก็สามารถสร้างภาพยนตร์ที่ดูง่ายและอบอุ่นได้เช่นกัน โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งความมืดหรือความจริงจังมากเกินไป Shazam! คือการเติมพลังแห่งรอยยิ้มให้จักรวาล DC อย่างแท้จริง




แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น
* Please Don't Spam Here. All the Comments are Reviewed by Admin.

Top Post Ad

#

Bottom Post Ad

#