![]() |
The Gray Man |
The Gray Man (2022) ล่าจารชน คนอันตราย: ภารกิจลับที่ไม่มีวันหวนกลับ
“The Gray Man” คือภาพยนตร์แอ็กชันสายลับสุดระทึกจาก Netflix Original ที่สร้างขึ้นโดยสองผู้กำกับระดับตำนานแห่งจักรวาล Marvel อย่าง โจ และ แอนโธนี รุสโซ (Russo Brothers) เจ้าของผลงาน Avengers: Endgame และ Captain America: The Winter Soldier โดยในครั้งนี้พวกเขากลับมาสร้างหนังแอ็กชันสายลับแนวใหม่ที่เต็มไปด้วยฉากต่อสู้สุดมัน เรื่องราวการไล่ล่าระหว่าง “มือสังหารฝีมือฉกาจ” และ “อดีตสายลับที่กลายเป็นเป้าหมายของรัฐบาล”
หนังเรื่องนี้มี ไรอัน กอสลิ่ง (Ryan Gosling) และ คริส อีแวนส์ (Chris Evans) มาปะทะกันอย่างดุเดือด พร้อมด้วย อานา เดอ อาร์มัส (Ana de Armas) ที่มาช่วยเติมความเข้มข้นให้กับภารกิจสุดโหดนี้
เรื่องย่อของ The Gray Man
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ เคอร์ต เจนทรี (Court Gentry) หรือรหัสลับ Six ซึ่งเป็นอดีตนักโทษที่ถูก CIA ดึงเข้ามาเป็นมือสังหารลับขององค์กร เขาคือหนึ่งในสายลับที่ทำภารกิจสกปรกโดยไม่มีตัวตนในระบบ ถูกเรียกว่า “The Gray Man” เพราะไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร ไม่มีตัวตนในโลกนี้
แต่แล้วทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป เมื่อ Six ได้ค้นพบความลับดำมืดของหน่วยงาน CIA และตัดสินใจไม่ยอมทำตามคำสั่ง เขากลายเป็นเป้าหมายที่ต้องถูกกำจัดโดยองค์กรที่เขาเคยรับใช้
CIA จึงส่งมือสังหารอีกคนชื่อ ลอยด์ แฮนเซน (Lloyd Hansen) อดีตเจ้าหน้าที่จอมโหด ที่พร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อจับหรือฆ่า Six ให้ได้ ภารกิจไล่ล่าทั่วโลกจึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่กรุงปราก, ฮ่องกง, ไทย, ไปจนถึงออสเตรีย
จุดเด่นของ The Gray Man
1. แอ็กชันเข้มข้นทุกวินาที
จุดขายสำคัญของ The Gray Man คือฉากแอ็กชันที่ยิ่งใหญ่และจัดเต็มทุกวินาที ตั้งแต่การต่อสู้บนรถไฟกลางเมือง การไล่ล่าบนหลังคา ไปจนถึงฉากระเบิดกลางกรุงปราก ซึ่งใช้การถ่ายทำจริงในสถานที่จริง ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง
ทีมผู้กำกับ Russo Brothers ใช้เทคนิคถ่ายทำแบบ “long take” ผสมกับสไตล์กล้องเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เพิ่มความตื่นเต้นให้ผู้ชมทุกลมหายใจ
2. การเผชิญหน้าของสองนักแสดงระดับโลก
Ryan Gosling รับบทเป็น Six ชายผู้เงียบขรึมแต่มีฝีมือการต่อสู้ระดับพระกาฬ เขาเล่นได้เท่มากโดยแทบไม่ต้องพูดเยอะ ในขณะที่ Chris Evans รับบทเป็น Lloyd Hansen ตัวร้ายจอมบ้าคลั่งและมีเสน่ห์ในเวลาเดียวกัน การเผชิญหน้าระหว่างทั้งสองคือหัวใจของหนังเรื่องนี้
การปะทะคารมและต่อสู้ระหว่าง “มืออาชีพเยือกเย็น” กับ “นักฆ่าบ้าระห่ำ” ทำให้ผู้ชมลุ้นทุกวินาที ถือเป็นการประชันฝีมือการแสดงที่ทรงพลังที่สุดในปี 2022
3. สาวนักสู้ผู้ทรงพลัง Ana de Armas
ในบทของ ดานี มิแรนดา (Dani Miranda) เจ้าหน้าที่ CIA หญิงที่เข้ามาช่วย Six เธอไม่ได้เป็นแค่ตัวประกอบหรือผู้หญิงในหนังแอ็กชันทั่วไป แต่มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้และช่วย Six ให้รอดชีวิต การปรากฏตัวของเธอเพิ่มพลังให้หนังและสร้างมิติใหม่ของตัวละครหญิงในหนังสายลับ
ทีมงานและเบื้องหลังการสร้าง
The Gray Man ใช้งบประมาณสูงถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กลายเป็นหนึ่งในหนังที่ลงทุนสูงที่สุดของ Netflix และยังเป็นผลงานแรกของ Russo Brothers ที่ร่วมมือกับ Netflix อย่างเต็มตัว
ภาพยนตร์ถ่ายทำในหลายประเทศทั่วโลก เช่น สาธารณรัฐเช็ก, ฝรั่งเศส, ออสเตรีย และไทย โดยทีมงานเลือกโลเคชั่นที่หลากหลายเพื่อให้หนังมีบรรยากาศสากลและสมจริง
ดนตรีประกอบโดย Henry Jackman (ผู้แต่งเพลงให้ Captain America) ซึ่งช่วยสร้างอารมณ์ตึงเครียดและเร่งเร้าให้กับทุกฉากแอ็กชัน
การวิเคราะห์ตัวละคร
Court Gentry (Six)
เขาคือชายที่เติบโตมาในความรุนแรง ถูกฝึกให้ฆ่าโดยไม่ถามเหตุผล แต่เมื่อค้นพบความจริงอันโสมมขององค์กร เขากลับเลือกจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะต้องกลายเป็นศัตรูกับทุกคนก็ตาม Six จึงเป็นตัวแทนของ “คนดีที่อยู่ในโลกสีเทา” — ไม่มีขาว ไม่มีดำ
Lloyd Hansen
ตัวร้ายที่มีเสน่ห์มากที่สุดคนหนึ่งของปี 2022 คริส อีแวนส์ เล่นบทนี้ได้ยอดเยี่ยมจนคนดูเกลียดแต่ก็อดชื่นชมไม่ได้ ลอยด์คือคนที่ใช้ความบ้าคลั่งในการทำงาน มีอารมณ์ขันแบบโรคจิต และไม่สนใจว่าต้องฆ่ากี่คนเพื่อบรรลุเป้าหมาย
Dani Miranda
ตัวละครหญิงที่ฉีกภาพจำของสายลับหญิงในหนังฮอลลีวูด เธอไม่ได้เป็นแค่ผู้ช่วย แต่เป็น “ผู้กอบกู้” ที่มีทั้งความฉลาดและฝีมือการต่อสู้ที่ไม่แพ้ใคร
ธีมของเรื่อง: โลกสีเทาแห่งการเลือกข้าง
ชื่อเรื่อง “The Gray Man” ไม่ได้หมายถึงแค่รหัสของตัวเอกเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึง “โลกของสายลับ” ที่ไม่มีความดีหรือความชั่วที่แท้จริง ทุกการตัดสินใจมีผลกระทบและไม่มีใครรอดโดยไม่เสียอะไรไป
หนังตั้งคำถามกับผู้ชมว่า “ในโลกที่เต็มไปด้วยการโกหกและอำนาจ เราจะเลือกทำสิ่งที่ถูกต้องได้หรือไม่?”
งานภาพและเสียง
การถ่ายทำของ The Gray Man ใช้เทคนิคภาพแบบโทนเย็นและสีน้ำเงิน เพื่อสะท้อนบรรยากาศลึกลับของโลกสายลับ Netflix ลงทุนสร้างฉากและเอฟเฟ็กต์ด้วยความละเอียดสูงทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นฉากระเบิดกลางเมืองหรือการต่อสู้บนเครื่องบิน
เสียงดนตรีประกอบช่วยสร้างอารมณ์กดดันและกระตุ้นความตื่นเต้นในทุกฉาก เสียงเครื่องยนต์ เสียงกระสุน และจังหวะดนตรีถูกผสมอย่างลงตัวจนเกิดพลังแห่งภาพยนตร์ที่สมบูรณ์แบบ
กระแสตอบรับ
หลังออกฉายทาง Netflix เมื่อเดือนกรกฎาคม 2022 “The Gray Man” ติดอันดับ Top 10 หนังยอดนิยมทั่วโลกในสัปดาห์แรกทันที มียอดผู้ชมสูงกว่า 88 ล้านชั่วโมง ภายในสัปดาห์เดียว
ผู้ชมส่วนใหญ่ชื่นชมในด้าน ความมันส์ของฉากต่อสู้, การแสดงของ Ryan Gosling และ Chris Evans, รวมถึง โปรดักชันระดับฮอลลีวูดแท้ ๆ
แม้บางคนมองว่าพล็อตค่อนข้างสูตรสำเร็จ แต่หลายคนเห็นตรงกันว่า “The Gray Man” คือจุดเริ่มต้นของจักรวาลใหม่ของ Netflix ที่มีศักยภาพต่อยอดไปสู่ภาคต่อได้
และในปี 2024 Russo Brothers ได้ยืนยันว่า The Gray Man 2 กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาอย่างเป็นทางการ
ทำไมต้องดู The Gray Man
-
หนังสายลับที่เต็มไปด้วยฉากต่อสู้สุดระห่ำและโปรดักชันระดับสูง
-
การแสดงของ Ryan Gosling และ Chris Evans ที่เข้มข้นและน่าจดจำ
-
เนื้อเรื่องสะท้อน “โลกสีเทา” ที่ไม่มีใครดีหรือเลวอย่างแท้จริง
-
ถ่ายทำในหลายประเทศทั่วโลก เพิ่มความอลังการและความสมจริง
-
เป็นผลงานของ Russo Brothers ที่การันตีคุณภาพระดับฮอลลีวูด
สรุป
“The Gray Man” เป็นภาพยนตร์ที่รวมทุกองค์ประกอบของความบันเทิงไว้ครบ ทั้ง แอ็กชัน, ดราม่า, การเมือง, และจิตวิทยา หนังแสดงให้เห็นว่าความถูกผิดในโลกของสายลับไม่ใช่สิ่งที่แน่นอน ทุกการตัดสินใจอาจเปลี่ยนโลกได้ในพริบตา
สำหรับแฟน ๆ หนังแอ็กชันสายลับ หรือคนที่ชื่นชอบการแสดงของ Ryan Gosling, Chris Evans และ Ana de Armas นี่คือหนังที่ “ห้ามพลาด” โดยเด็ดขาด