![]() |
| Star Wars: Episode II – Attack of the Clones (2002) |
Star Wars: Episode II – Attack of the Clones (2002)
สตาร์วอร์ส ภาค 2 จุดเริ่มต้นของสงครามโคลนและความมืดที่คืบคลาน
Star Wars: Episode II – Attack of the Clones (2002) หรือชื่อไทยว่า “สตาร์วอร์ส: การโจมตีของโคลน” เป็นหนึ่งในภาคที่มีความสำคัญมากที่สุดในจักรวาล Star Wars เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของกาแล็กซี และยังเป็นช่วงเวลาที่ความรัก ความขัดแย้ง และอำนาจเริ่มเข้าครอบงำหัวใจของตัวละครหลักอย่าง อนาคิน สกายวอล์กเกอร์ (Anakin Skywalker) ซึ่งในอนาคตจะกลายเป็น ดาร์ธ เวเดอร์ (Darth Vader) หนึ่งในตัวร้ายที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์
พล็อตเรื่องโดยสรุป
เรื่องราวใน Attack of the Clones เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ใน The Phantom Menace (1999) ประมาณ 10 ปี กาแล็กซีกำลังเผชิญกับความตึงเครียดทางการเมือง สาธารณรัฐกาแลคติกเริ่มอ่อนแอและเต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจ เมื่อดาวหลายแห่งเริ่มประกาศแยกตัวออกจากสาธารณรัฐ ทำให้เกิดความวุ่นวายไปทั่วจักรวาล
ในขณะเดียวกัน วุฒิสมาชิกแพดเม่ อมิดาลา (Padmé Amidala) ถูกลอบสังหารแต่รอดชีวิตมาได้ จึงทำให้ เจได โอวาน เคโนบี (Obi-Wan Kenobi) และศิษย์ของเขา อนาคิน สกายวอล์กเกอร์ ได้รับมอบหมายให้คุ้มครองเธอ ระหว่างที่อนาคินใช้เวลาอยู่กับแพดเม่มากขึ้น ความรู้สึกระหว่างทั้งสองก็เริ่มเติบโต แม้เจไดจะมีกฎห้ามมีความรัก แต่อนาคินกลับเลือกเดินในเส้นทางแห่งอารมณ์และความหลงใหล
ระหว่างนั้น โอวานได้สืบสวนจนพบว่ามีการสร้างกองทัพโคลนลับ ๆ บนดาว คามิโน (Kamino) โดยใช้พันธุกรรมของนักล่าค่าหัว แจงโก้ เฟ็ตต์ (Jango Fett) ซึ่งต่อมาจะเป็นต้นแบบของกองทัพโคลนทั้งหมด และยังเป็นบิดาของ โบบ้า เฟ็ตต์ (Boba Fett) อีกด้วย
ท้ายที่สุด เมื่อสงครามระหว่างสาธารณรัฐและฝ่ายแบ่งแยก (Separatists) ปะทุขึ้นเต็มรูปแบบ กองทัพโคลนถูกนำเข้าสู่สนามรบ และนี่คือจุดเริ่มต้นของ “สงครามโคลน” (The Clone Wars) ที่จะกลายเป็นเหตุการณ์สำคัญต่อเนื่องในจักรวาล Star Wars ทั้งหมด
จุดเด่นของหนัง
🎬 1. การพัฒนาอนาคิน สกายวอล์กเกอร์
ภาคนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนของอนาคินจากเด็กชายผู้มีพรสวรรค์ สู่ชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความสับสน ความกลัว และความโกรธ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแพดเม่กลายเป็นหัวใจหลักของเรื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้ระหว่าง “หน้าที่” กับ “ความรู้สึกส่วนตัว” อย่างลึกซึ้ง
⚔️ 2. ฉากแอ็กชันและสงครามสุดยิ่งใหญ่
หนึ่งในจุดแข็งของ Attack of the Clones คือฉากรบของกองทัพโคลนกับหุ่นรบของฝ่ายแบ่งแยก ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผู้ชมได้เห็นสงครามเต็มรูปแบบในโลกของ Star Wars ทั้งในระดับพื้นดินและอวกาศ ฉากนี้ยังถูกยกให้เป็นหนึ่งใน “สงครามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไซไฟ”
💫 3. การปรากฏตัวของโยดาในฉากต่อสู้
แฟน ๆ ต่างตื่นเต้นกับการได้เห็น อาจารย์โยดา (Master Yoda) ต่อสู้ด้วยดาบแสง (Lightsaber) ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ Star Wars ฉากต่อสู้กับ เคาท์ ดูกู (Count Dooku) กลายเป็นหนึ่งในซีนที่จดจำได้มากที่สุดของแฟรนไชส์นี้
🌌 4. การขยายจักรวาล Star Wars
ภาคนี้เปิดเผยหลายสิ่งที่เป็นรากฐานของจักรวาล Star Wars เช่น การกำเนิดกองทัพโคลน, ตัวตนของแจงโก้ เฟ็ตต์, และพัฒนาการของระบบการเมืองในกาแล็กซี ซึ่งต่อมาจะนำไปสู่การล่มสลายของสาธารณรัฐและการเกิดขึ้นของจักรวรรดิ (Galactic Empire)
แง่คิดและสาระจากหนัง
แม้ Star Wars: Episode II – Attack of the Clones (2002) จะเป็นภาพยนตร์แนวไซไฟ แต่ก็เต็มไปด้วยแง่คิดทางจิตวิทยาและปรัชญา โดยเฉพาะเรื่อง “อำนาจ” และ “ความกลัว” ซึ่งเป็นแรงผลักดันที่นำอนาคินไปสู่ด้านมืด ความกลัวในการสูญเสียคือสิ่งที่ทำให้เขาต้องการควบคุมทุกอย่าง และในที่สุดความต้องการนั้นก็กลายเป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรม
หนังยังสื่อถึงความไม่แน่นอนของการเมือง ว่าการมอบอำนาจให้ผู้นำมากเกินไปอาจกลายเป็นต้นเหตุของการกดขี่ เช่นเดียวกับที่สาธารณรัฐเปลี่ยนผ่านสู่จักรวรรดิในภาคต่อไป
ทีมงานและนักแสดง
-
ผู้กำกับ: George Lucas
-
เขียนบทโดย: George Lucas และ Jonathan Hales
-
นำแสดงโดย:
-
Hayden Christensen รับบท Anakin Skywalker
-
Natalie Portman รับบท Padmé Amidala
-
Ewan McGregor รับบท Obi-Wan Kenobi
-
Christopher Lee รับบท Count Dooku
-
Samuel L. Jackson รับบท Mace Windu
-
การแสดงของ Hayden Christensen ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง เพราะเขาต้องรับบทตัวละครที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัดแย้ง ส่วน Natalie Portman ถ่ายทอดความแข็งแกร่งและอ่อนโยนของแพดเม่ได้อย่างน่าประทับใจ
ด้านเทคนิคและภาพยนตร์
ภาคนี้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องแรก ๆ ที่ถ่ายทำด้วย ดิจิทัลฟิล์มเต็มรูปแบบ (Digital Cinematography) ซึ่งในปี 2002 ถือว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่สุดล้ำในวงการภาพยนตร์ George Lucas ใช้เทคนิค CGI จำนวนมากเพื่อสร้างโลกแห่งกาแล็กซีที่เต็มไปด้วยรายละเอียด ทั้งเมือง คอรัสซานท์ (Coruscant), ดาว คามิโน (Kamino) และสมรภูมิ จีโอโนซิส (Geonosis) ซึ่งทุกฉากถูกสร้างขึ้นอย่างวิจิตรบรรจง
ความสำเร็จและการตอบรับ
แม้เสียงวิจารณ์ในตอนแรกจะมีทั้งด้านบวกและลบ แต่ Attack of the Clones ก็ทำรายได้ทั่วโลกกว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกลายเป็นหนึ่งในภาคที่แฟน ๆ ยังคงพูดถึงในด้านความยิ่งใหญ่ของสงครามและพัฒนาการของตัวละคร
นอกจากนี้ หนังยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดซีรีส์อนิเมชันชื่อดังอย่าง Star Wars: The Clone Wars (2008) ที่ขยายเรื่องราวในช่วงสงครามโคลนต่อจากภาคนี้โดยตรง
บทสรุป
Star Wars: Episode II – Attack of the Clones (2002) ไม่ได้เป็นเพียงภาพยนตร์แอ็กชันไซไฟธรรมดา แต่เป็นบทสำคัญที่วางรากฐานให้กับโศกนาฏกรรมของอนาคินและการเกิดขึ้นของจักรวรรดิ ความสัมพันธ์ ความกลัว และการเมืองถูกร้อยเรียงเข้าด้วยกันอย่างลึกซึ้ง กลายเป็นเรื่องราวที่ทั้งสะเทือนใจและทรงพลัง
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบหนังไซไฟระดับตำนาน Attack of the Clones คือหนึ่งในภาคที่ “ต้องดู” เพื่อเข้าใจแก่นแท้ของจักรวาล Star Wars อย่างแท้จริง

